ประวัติคความเป็นมา

          การส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพดี เป็นความจำเป็นพื้นฐาน  และเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของทุกคน แต่เนื่องจากสภาพแวดล้อมรอบตัวที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคดิจิทัลไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวและความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ส่งผลให้สังคมโลก รวมถึงประเทศไทยต้องปรับตัว เพื่อการดำรงอยู่ในกระแสของการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ที่ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป ทำให้คุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชน ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญของการพัฒนา  ทางด้านเศรษฐกิจและสังคมที่จำเป็นต้องมีการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ นับเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญประกอบกับปัญหามลพิษจากสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกและการขยายตัว  ของสังคมเมืองเพิ่มขึ้น คนไทยต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงขอบเขตหน้าที่ ความสามารถ และทรัพยากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ศักยภาพในการพัฒนาตนเอง ของชุมชน ระบบและกลไกการพัฒนาระบบราชการไทยที่มุ่งประโยชน์สุขของประชาชน รวมทั้งกระแสการปฏิรูประบบสุขภาพภายใต้การปฏิรูปประเทศไทยในยุค 4.0 มุ่งหวังให้ประชาชนตระหนักในการสร้างเสริมสุขภาพ ของตนเองหรือระบบสุขภาพ “สร้างนำซ่อม” ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid 19)  ได้จุดประกายให้เกิดการรวมตัวของผู้คน องค์กร หรือเครือข่ายประชาคมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเป็น “สมัชชาสุขภาพ” พูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถกแถลงหาทางออกของปัญหาสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนใหม่  เพื่อป้องกันก่อนเจ็บ รักษาก่อนป่วย ดังที่กล่าวว่า “ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ”

          มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพ ในมิติที่กว้างกว่า     การบริการทางการแพทย์ ดังนั้น จึงได้จัดทำหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมการจัดการสุขภาพในยุคดิจิทัล Graduate Certificate Program in Health Innovation in Digital Age ศาสตร์การแพทย์แผนใหม่ที่ประยุกต์ศาสตร์ทางการแพทย์ 5 ศาสตร์ คือ การแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์แผนไทยการแพทย์แผนจีน แพทย์ดุลยภาพบำบัด และแพทย์ตามแนวธรรมชาติบำบัด หรือ Homeopathy เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการส่งเสริมสุขภาพ แนวทางป้องกันโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย และชะลอความเสื่อมของร่างกายก่อนวัยอันควร โดยมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพผู้บริหารในยุคดิจิทัล ให้มีความรู้ความเข้าใจ ด้านทฤษฎี และภาคปฏิบัติที่นำไปใช้ได้จริง สามารถนำมาใช้ในการกำหนดนโยบาย การเสริมสร้างสุขภาพในองค์กร และนำไปวัดผลการปฏิบัติงานได้อย่างชัดเจน รวมทั้งยังเทียบโอนหน่วยกิต เพื่อศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น นับเป็นหลักสูตรที่สร้างผู้นำระดับยุทธศาสตร์สุขภาพ ในการสานพลังเครือข่ายทั้งในระบบสาธารณสุข และนอกระบบสาธารณสุข ให้มีความเข้มแข็ง ประกอบกับการนำเทคโนโลยี แอปพลิเคชัน และการสื่อสารออนไลน์มาประยุกต์ใช้ทางการแพทย์ เพื่อร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ทั้งมิติด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาคุณภาพชีวิต